ทำโฆษณา Facebook ให้ยอดขายพุ่ง เคล็ดลับจากวงในนักการตลาดตัวจริง
ทำโฆษณา Facebook ในยุคนี้ยังเวิร์กอยู่ไหม..? หลายคนบอกว่าค่าโฆษณาแพงขึ้น คู่แข่งเยอะขึ้น ยิงแอดไปก็เหมือนเผาเงินเล่น แต่ความจริงคือธุรกิจที่ทำ Facebook ads อย่างมีกลยุทธ์ ยังคงทำยอดขายพุ่งได้แบบติดสปีด! เพียงแค่รู้วิธีทําโฆษณา Facebook ตั้งค่าโฆษณาให้แม่นยำ เลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง และใช้เทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ Facebook Ads มาอย่างยาวนานแนะนำ รับรองว่าโฆษณาที่ลงไปจะคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
มาดูกันว่าเคล็ดลับจากวงในที่จะช่วยให้โฆษณา Facebook ของคุณได้ผลคืออะไร พร้อมวิธีแก้ปัญหาที่คนยิงแอดมักพบบ่อยในบทความนี้กันได้เลย
การทำโฆษณา Facebook ตัวช่วยพิชิตยอดขายแบบติดสปีด
ในยุคที่แพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์มีหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, YouTube หรือแม้แต่ Google ก็ล้วนทำโฆษณาออนไลน์ได้ ทำให้นักการตลาดหลายคนตั้งคำถามว่า “Facebook Ads ยังคุ้มค่า น่าทำอยู่ไหม?” เพราะกระแสโซเชียลมีเดียเปลี่ยนแปลงเร็วแบบสุดๆ
ก่อนอื่นเราจะไม่บอกว่าการทำ Facebook Ads เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มยอดขายและได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้แพลตฟอร์มอื่นๆ แต่เราอยากให้คุณได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้รู้ว่าอะไรคือเหตุผลที่การทำ Facebook ads เป็นสิ่งที่คุณควรทำ เพราะถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่จะเข้าถึงลูกค้าได้กว้าง ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีเครื่องมือโฆษณาทรงพลัง และให้ผลลัพธ์วัดผลได้จริง Facebook Ads ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ!
เหตุผลที่ทำให้โฆษณา Facebook ยังจำเป็นในยุคนี้
– มีฐานผู้ใช้มหาศาล และยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมาก
– Facebook Groups และ Marketplace กำลังเติบโตและเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับธุรกิจ
– เป็นแพลตฟอร์มที่มี Engagement สูง คนยังคงแชร์ ไลก์ และคอมเมนต์อยู่ตลอด
– Facebook Ads Manager มีระบบ Machine Learning และ AI อัจฉริยะ ที่ช่วยให้โฆษณาทำงานได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิม
– เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ เลือกกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายรูปแบบ
– ทำโฆษณาได้หลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ, ภาพ, Carousel ฯลฯ
– วัดผลได้แบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียด
– ทำ A/B Testing ได้ง่าย สามารถทดสอบโฆษณาหลายเวอร์ชันเพื่อหาตัวที่ดีที่สุด
– ทำ Remarketing ได้ สามารถยิงโฆษณาซ้ำไปที่คนที่เคยสนใจ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ
– งบน้อยก็เริ่มได้ กำหนดงบรายวัน-รายเดือนได้เอง และควบคุมงบได้ตลอด
– ใช้ได้กับทุกธุรกิจไม่ว่าจะขายสินค้าออนไลน์, ธุรกิจบริการ ต้องการสร้างแบรนด์ หรืออื่นๆ
เช็กลิสต์ก่อนทำโฆษณา Facebook Ads
รายการตรวจสอบ | ✔️/ ❌ |
เตรียมบัญชี Facebook Business | [ ] |
ศึกษานโยบาย ข้อปฏิบัติในการทำ Facebook ads | [ ] |
กำหนด Objective โฆษณาที่ชัดเจน | [ ] |
กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ | [ ] |
เตรียมสื่อโฆษณาสุดครีเอทีพ (วิดีโอ รูปภาพ ฯลฯ) | [ ] |
ใช้ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน | [ ] |
เตรียมข้อความโฆษณา อ่านง่าย กระชับ ตรงประเด็น | [ ] |
วางงบประมาณและระยะเวลาให้เหมาะสม | [ ] |
เตรียมทีมที่มีความสามารถและประสบการณ์ | [ ] |
วางแผนการวัดผล ตั้ง KPIs ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย | [ ] |
ตั้งค่าการวัดผล ติดตั้งเครื่องมือต่างๆ เช่น Pixel / Conversion API | [ ] |
เตรียมแผนสำรองหากมีปัญหาเกิดขึ้น | [ ] |
ตรวจสอบความพร้อมก่อนเผยแพร่ทุกครั้ง | [ ] |
วิธีทํา facebook ads การตั้งค่าแคมเปญขั้นพื้นฐาน
ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตบนโลกออนไลน์การทำโฆษณา Facebook Ads คือเครื่องมือสำคัญที่ต้องใช้ให้เป็น! แต่แค่การกดปุ่ม “Boost Post” อย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้ยอดขายพุ่งอย่างที่หวัง การตั้งค่าแคมเปญอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามเราไปดูวิธีตั้งค่าแคมเปญ Facebook Ads ขั้นพื้นฐาน ที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริงกันได้เลย
ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่ Facebook Ads Manager
– เข้าสู่ระบบ / Log in บัญชี Facebook ที่ใช้สำหรับธุรกิจ
– ตรวจสอบว่าบัญชีของคุณเชื่อมโยงกับ Facebook Business Manager แล้ว (แนะนำให้เชื่อมต่อ เพื่อการจัดการที่เป็นระบบ)
ขั้นตอนที่ 2: สร้างแคมเปญและกำหนดวัตถุประสงค์ (Campaign Objective)
– คลิกที่ปุ่ม “สร้าง” เพื่อเริ่มสร้างแคมเปญใหม่
– เลือกวัตถุประสงค์ให้เหมาะกับเป้าหมายการทำโฆษณา Facebook ของธุรกิจ เช่น
– Awareness สร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างการจดจำ
– Traffic การเข้าชมเว็บไซต์ ดึงคนไปที่เว็บไซต์หรือ Landing Page
– Engagement สร้างการมีส่วนร่วม เพิ่มไลก์, คอมเมนต์, แชร์
– Leads การหาลูกค้าใหม่
– Sales การขายสินค้า/บริการ เพิ่มยอดขายผ่านเว็บไซต์ ฯลฯ
– ตั้งชื่อแคมเปญให้สื่อถึงวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting)
กำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้การทำ Facebook ads แม่นยำขึ้น โดยธุรกิจควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ดีเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มคนที่มีแนวโน้มสูงที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของธุรกิจได้โดยไม่ต้องเสียงบประมาณที่บานปลาย
– Demographics & Behavior ตั้งค่าตามอายุ, เพศ, พื้นที่ และพฤติกรรมการใช้จ่าย
– Custom Audience เข้าถึงคนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ / ดูวิดีโอ / กดไลก์เพจ
– Lookalike Audience หาลูกค้าใหม่ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับลูกค้าเก่า
– Interest-Based Targeting เลือกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ เช่น แฟชั่น, ธุรกิจ, เทคโนโลยี
ขั้นตอนที่ 4: เลือกตำแหน่งการแสดงผลโฆษณา (Ad Format)
เลือกตำแหน่งที่ต้องการให้โฆษณาไปแสดงผล เช่น บน Feed, ใน Stories หรือใน Marketplace โดยที่ Facebook จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญ
ขั้นตอนที่ 5: กำหนดงบประมาณและระยะเวลาโฆษณา
สามารถเลือกการกำหนดงบประมาณได้ 2 แบบ คือ
– Daily Budget (กำหนดงบรายวัน)
– Lifetime Budget (กำหนดงบตลอดแคมเปญ)
ขั้นตอนที่ 6: เลือกรูปแบบโฆษณา (Ad Format)
การทำโฆษณา Facebook มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย เช่น
– Image Ad ภาพนิ่ง + แคปชั่น ทำได้ทั้งภาพเดี่ยว Infografhic หรือ อัลบั้ม
– Video Ad วิดีโอสั้นดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าวิดีโอยาว
– Carousel Ad แสดงภาพสินค้าหลายชิ้นในโฆษณาเดียว
– Collection Ad เหมาะสำหรับ E-commerce ให้ลูกค้าซื้อได้ทันที
ขั้นตอนที่ 6: ตั้งค่าโฆษณาและ Call-to-Action (CTA)
กำหนดข้อความโฆษณา และ CTA ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ ใช้คำที่กระตุ้นให้เกิดการคลิก เช่น “Shop Now”, “Sign Up”, “Learn More” บวกกับข้อความโฆษณาที่กระชับ ดึงดูด โน้มน้าวใจได้ดี เช่น
– ใช้ข้อเสนอพิเศษ เช่น “ลดสูงสุด 50% วันนี้เท่านั้น!”
– กระตุ้นให้ลงมือทำ เช่น “คลิกเลย! ของมีจำนวนจำกัด”
– ใช้ตัวเลขและสถิติ เช่น “ลูกค้ากว่า 10,000 คนไว้วางใจเรา”
ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบและเผยแพร่โฆษณา
– Preview ดูตัวอย่างโฆษณาก่อนยิง Facebook ads จริง
– Check Compliance ตรวจสอบว่านโยบายโฆษณาของ Facebook ไม่ถูกปฏิเสธ
– Publish & Monitor กดเผยแพร่ และติดตามผลลัพธ์ใน Ads Manager
ขั้นตอนที่ 8: วิเคราะห์ผลและปรับปรุงโฆษณา
หลังจากโฆษณารันไปสักระยะให้ทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์การทำโฆษณา Facebook ในแต่ละแคมเปญ โดยที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
- ตรวจสอบ Metrics สำคัญ อาทิ CTR, CPC, CPM, ROAS
- ทำการปรับปรุงโฆษณา เปลี่ยนภาพ, ปรับข้อความ, ทดลอง Audience ใหม่
- ทำ A/B Testing เพื่อหาแนวทางการทำโฆษณาลง Facebook ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ามากที่สุด
10 เคล็ดลับยิงแอด Facebook ให้ได้ผล จากนักการตลาดตัวจริง
วิธีทําโฆษณา Facebook ให้ได้ผลนั้นไม่ยากอย่างที่คิด เราได้รวมเคล็ดลับการยิงแอด Facebook ให้เพิ่มยอดขายได้จริง แถมยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นแบบสุดๆ มาให้ทุกคนแล้ว ขอบอกเลยว่าข้อมูลวงในนี้มาจากนักการตลาดมือโปรที่ลองทำมาแล้วได้ผลจริงด้วยนะ!
1. ‘หยุด’ แคมเปญที่ไม่ได้ผล
– นำงบไปลงในส่วนอื่นที่มีโอกาสสำเร็จ
– โฟกัสแคมเปญที่ได้ผลดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา Facebook
– รักษาภาพลักษณ์ที่อาจถูกทำลายจากโฆษณาที่ไม่ดี
– เรียนรู้จากข้อผิดพลาด ปรับแผนกลยุทธ์การทำโฆษณา Facebook ให้ไวที่สุด
3. แบ่งกลุ่มเป้าหมายย่อย เพื่อยิง Ads ให้ตรงความต้องการ
เราสามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายย่อยได้หลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น
– แบ่งตามความสนใจ เช่น สนใจกีฬา แฟชั่น
– แบ่งตามพฤติกรรมการซื้อ เช่น ซื้อครั้งแรก ซื้อซ้ำ
– แบ่งตามพฤติกรรมการใช้งานออนไลน์ เช่น เวลาใช้งาน
– แบ่งตามข้อมูลทางภูมิศาสตร์ เช่น เมืองที่อยู่
4. โฟกัสสินค้าที่ขายดีก่อนในช่วงแรก
– วิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย ความสนใจของลูกค้า
– ช่วงแรกให้โฟกัสสินค้าหลักที่คนสนใจ/ขายดีก่อน
– ทำให้คนรู้จัก เชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้นจากสินค้าขายดี
– เมื่อสินค้าหลักขายดีคงที่แล้ว ให้ขยายไปยังสินค้าอื่นๆ
5. สร้างโฆษณาที่ดึงดูด มีเนื้อหาที่ตอบโจทย์ โดนใจ
– เน้นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับ ให้อะไร แก้ปัญหาอะไร
– บอกจุดเด่นที่แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง
– ใช้คำกระตุ้นอารมณ์ เช่น ฟรี, พิเศษ, จำกัดเวลา
– ใช้ CTA ในการทำโฆษณา Facebook ที่ชัดเจน เช่น ซื้อเลย, คลิกที่นี่
– กราฟิกต้องดึงดูด สื่อถึงแบรนด์/สินค้า
6. ทำ Landing Page/Sale Page ที่มีคุณภาพ
– เน้นที่เป้าหมายเดียว เช่น โน้มน้าวให้ซื้อสินค้า
– มีหัวข้อชัดเจน เน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
– สร้างความน่าเชื่อถือ รีวิว ใบรับรอง รางวัล
– ใช้ภาษาเข้าใจง่าย เนื้อหากระชับ เน้นประเด็นสำคัญ
– มีปุ่ม CTA ที่ชัดเจนปุ่มเดียว เลี่ยงความสับสน
7. ปรับเวลาเผยแพร่โฆษณา Facebook
– ใช้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
– ลงในวัน-เวลาที่กลุ่มเป้าหมายออนไลน์มากที่สุด
– อย่าละเลยช่วงเทศกาล/ช่วงที่มีการซื้อสินค้าสูง
– ตั้งค่าช่วงเวลาเผยแพร่โฆษณาในแพลตฟอร์ม
– ทดสอบเพื่อค้นหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำโฆษณา Facebook
8. ทดสอบ A/B Testing เช่น ทดสอบภาพ ข้อความ ปุ่ม สี
– กำหนดเป้าหมายในการทำ A/B Testing ให้ชัดเจน
– เลือก 1 ตัวแปรที่จะทดสอบ เช่น เทียบข้อความที่ต่างกัน 2 แบบ เทียบสีปุ่มที่ต่างกัน เป็นต้น
– สร้างโฆษณา 2 แบบ โดยเปลี่ยนเฉพาะตัวแปรนั้นๆ
– เปรียบเทียบผลลัพธ์ เพื่อดูว่าแบบไหนดีกว่า
– นำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับปรุงแคมเปญโฆษณา
9. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ติดตามผลลัพธ์ ปรับปรุง และพัฒนาแคมเปญ
– ใช้เครื่องมือ Facebook Insights วิเคราะห์แคมเปญโฆษณา
– นำผลลัพธ์มาทำสรุป พร้อมระบุจุดแข็ง จุดอ่อน
– เปรียบเทียบผลลัพธ์ของแคมเปญต่างๆ
– ปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ เช่น ปรับกลุ่มเป้าหมาย, เนื้อหาโฆษณา, Landing Page, งบประมาณ
10. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากพบปัญหาหรือต้องการคุมงบไม่ให้บานปลาย
– ตรวจสอบประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือของผู้เชี่ยวชาญ
– เตรียมข้อมูลธุรกิจและข้อมูลแคมเปญโฆษณา
– ลิสต์ปัญหาที่กำลังเผชิญ สิ่งที่ต้องการแก้
– ปรึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา วิธีทํา facebook ads ให้ได้ผล และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
ปัญหาในการทำ Facebook ads ที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไข
ทำโฆษณา Facebook แล้วทำไมไม่ได้ผล? ทุ่มงบไปเยอะ แต่ยอดขายไม่ขยับ โฆษณาไม่ผ่านการอนุมัติ หรือยิงแอดแล้วคนเห็นน้อยเกินไป ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้บ่อยกับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจที่ใช้ Facebook Ads
แต่ไม่ต้องกังวล! ทุกปัญหามีทางแก้ เราได้รวมปัญหาที่พบบ่อยในการทำ Facebook ads พร้อมวิธีแก้ไขแบบตรงจุดมาให้คุณปรับแคมเปญได้อย่างมือโปรมาให้แล้ว
1. งบประมาณบานปลาย
มักจะมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากการตั้งค่าราคาการประมูลที่สูงเกินไป, การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่กว้างเกินไป หรือการทำโฆษณาไม่ตรง Intent ของกลุ่มเป้าหมาย
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
– ปรับการตั้งค่าการประมูลให้เหมาะสมกับงบประมาณและเป้าหมาย
– กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เจาะจงมากขึ้น เช่น อายุ, เพศ, ความสนใจ, พฤติกรรม
– ใช้ระบบการปรับราคาอัตโนมัติของ Facebook ช่วยปรับราคาประมูลให้เหมาะสม
– ปรับรูปแบบเนื้อหาโฆษณาและวิธีทําโฆษณา Facebook ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2. ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
มักจะมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากการไม่ได้มีการวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไม่ติดตามผลและปรับกลยุทธ์
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
– ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น ยอดขาย, จำนวนคลิก
– ใช้ Facebook Ads Manager เพื่อติดตามผลลัพธ์ ปรับกลยุทธ์และพัฒนาวิธีทํา facebook ads อย่างสม่ำเสมอ
– ปรับเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณา, ภาพ, หรือกลุ่มเป้าหมายเมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
3. โฆษณาไม่ผ่านการอนุมัติ
มักจะมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากการที่เนื้อหาโฆษณาไม่สอดคล้องกับนโยบายของทาง Facebook
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
– อ่านนโยบายการทำโฆษณา Facebook อย่างละเอียด ศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายของ Facebook อย่างเคร่งครัด
– ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาไม่มีส่วนที่ขัดต่อกฎหมาย เป็นการหลอกลวง หรือขัดต่อนโยบายของทาง Facebook
– ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับนโยบายของ Facebook
4. ลูกค้าไม่สนใจ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไม่ได้
มักจะมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากการที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงกับรูปแบบสินค้า บริการ และเป้าหมายในการทำโฆษณา หรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ รวมไปจนถึงการทำเนื้อหาโฆษณาที่ไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
– ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ทำความเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าเป้าหมาย
– ใช้เครื่องมือของ Facebook เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจงมากขึ้น
– ทดลองสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันเพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณา Facebook ที่ได้ผลดีที่สุด
5. ค่า CPA (Cost Per Acquisition) สูง
CPA เป็นการคิดค่าโฆษณาเมื่อมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นตามที่ผู้ยิงโฆษณากำหนด ปัญหานี้คือการที่ “ต้นทุนโฆษณาต่อ 1 การกระทำ” สูงเกินไป ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการได้ลูกค้าหนึ่งรายสูงเกินไป
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
– ปรับปรุงคุณภาพโฆษณา สร้างโฆษณาที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการของลูกค้า
– ปรับปรุง Landing Page/Sale Page ให้มีความน่าเชื่อถือและกระตุ้นให้เกิดการซื้อ
– ปรับกลุ่มเป้าหมายให้เจาะจงและมีคุณภาพมากขึ้น เพื่อทำ Facebook ads เข้าถึงกลุ่มคนที่มีโอกาสและแนวโน้มในการซื้อสูง
สรุป
การทำโฆษณา Facebook ให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าไม่ใช่แค่เรื่องของการทุ่มงบเยอะๆ หว่านแหไปแบบไร้จุดหมาย แต่คือการใช้กลยุทธ์และวิธีทํา facebook ads ที่ถูกต้อง ตั้งแต่การเข้าใจลูกค้าให้ลึก เลือก Objective ให้ตรงเป้าหมาย กำหนดงบประมาณให้เหมาะสม สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูด ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบ (A/B Testing) เพื่อนำมาปรับปรุงแคมเปญและวิธีทําโฆษณา Facebookอย่างต่อเนื่อง และก็ต้องอย่าลืมว่า Facebook มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักการตลาดที่ฉลาดต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ
แล้วถ้าอยากให้โฆษณาทำเงิน ไม่ใช่แค่เผางบไปวันๆ เราขอแนะนำให้ลองนำเคล็ดลับการทำโฆษณา Facebook จากบทความนี้ไปใช้ แต่ถ้าอยากได้โฆษณาที่โดนใจพร้อมได้ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลรับทำโฆษณา Facebook แบบครบวงจร ไม่ต้องลองผิดลองถูก และเสียงบประมาณไปอย่างน่าเสียดาย “ติดต่อเราเข้ามาได้เลย” รับรองว่าการทำ Facebook ads ของคุณจะคุ้มค่าและช่วยให้ยอดขายพุ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน